ไฟตัดหมอกรถยนต์

ไฟตัดหมอกรถยนต์

แม้ว่าการติดตั้ง ไฟตัดหมอกรถยนต์ ออกมาจากโรงงานจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น แต่ก็มีคนจำนวนมากไม่เข้าใจวิธีใช้ ไฟตัดหมอกรถยนต์ ที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์ เดี๋ยวเรามาดูประโยชน์ของ ไฟตัดหมอก กันค่ะ
ไฟตัดหมอกมีมานานมากแล้ว โดยเฉพาะประเทศเมืองหนาว หรือประเทศที่มีภูเขาค่อนข้างมาก โดยเจ้าไฟตัดหมอกนี้จะเป็นดวงไฟชุดที่ 2 ที่จะช่วยให้ความสว่างยามที่ทัศนวิสัยการขับขี่ไม่เอื้ออำนวยนัก

ชุดไฟตัดหมอก คืออะไร ?

ชุดไฟตัดหมอก โดยมากมันก็คือ สปอร์ตไลท์ย่อส่วน ที่มาพร้อมกับดวงไฟขนาดไม่ใหญ่โตนัก ที่ขนาด 55วัตต์ แต่ก็ทะลุทะลวงเอาเรื่อง ด้วยหลอดไฟแบบเดียวกับสปอร์ตไลท์ ที่จะกระจายแสงในระนาบแนวกว้างนี้ จะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้ แม้จะไม่มากมายแต่ก็สามารถทำให้มองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นที่สังเกตของรถที่สวนมา หรือรถที่ตามมาข้างหลังได้ สำหรับไฟตัดหมอกหลัง
การใช้ไฟตัดหมอกนั้น สามารถทำได้ในหลายๆโอกาสเหมือนกัน แม้มันจะขึ้นชื่อว่าไฟตัดหมอก แต่คุณก็สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะในหน้าฝนที่ตกพรำๆเช่นกัน ผิวถนนที่เคลือบด้วยน้ำจะทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่นั้นไม่ดี การเปิดไฟตัดหมอกก็จะพอช่วยได้ แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ เรามี 4 สถานการณ์แนะนำ ที่ควรจะต้องเปิดไฟตัดหมอกขณะขับขี่

4 สถานการณ์แนะนำ ที่ควรจะต้องเปิดไฟตัดหมอกขณะขับขี่

  1. ฝนตก หนึ่งในสิ่งที่ควรทำ และน่าจะทำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพบ ว่าตัวเองกำลังฝ่าฝนชุดใหญ่ที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา คุณสมบัติในการกระจายแสงของไฟตัดหมอกจะช่วยให้คุณเป็นที่สังเกตได้ง่าย เช่นเดียว กับการเพิ่มทัศนวิสัยให้ตัวเองไปด้วยในตัว
  2. หมอกหนา อันนี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันมากนัก เพราะมัน เป็นสิ่งที่ไฟตัดหมอกรถยนต์เกิดมาเพื่อทำหน้าที่ตามชื่อของมันอยู่แล้ว โดยมากเรามักจะคิดว่าไฟตัดหมอกรถยนต์นั้นจะใช้เฉพาะการขับรถหน้าหนาว แต่ ความจริงแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ขึ้นภูเขา หรือที่สูง และพบว่าคุณตกอยู่ในทัศนวิสัยการขับขี่ที่ไม่ดี เจ้าไฟตัดหมอกรถยนต์นี่แหละที่เป็นตัวช่วยอย่างดีเลย
  3. หลังฝนหยุดในเวลากลางคืน ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อที่เราอยากแนะนำให้ทำเป็นอย่างมาก เพราะมันมีประโยชน์ ช่วยให้เราเห็นเส้นทางได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง หรือเส้นทางจราจรต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถขับขี่รถยนต์คันเก่งได้ง่ายขึ้น โดยปกติ เมื่อฝนหยุดแล้ว ถนนจะยังเปียกชื้น แม้ว่าจะเปิดไฟสูงไป แต่เราก็จะพบว่ามันไม่ค่อยสว่างมากนัก การหันมาเพิ่มความเข้มของแสงด้วยไฟตัดหมอกจะช่วยขจัดปัญหานี้ และช่วยลดการสะท้อนของน้ำที่ผิวถนนไปด้วยในตัว
  4. ขับผ่านกลุ่มควันไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้หญ้า หรืออะไรก็ตามที่คุณพบว่า ทำให้ไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าเกินกว่า 50 เมตร ก็สามารถเปิดใช้ไฟตัดหมอกได้โดยไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
    อย่างไรก็ดี การใช้ไฟตัดหมอกรถยนต์ที่ถูกต้องจริงๆแล้ว ควรปิดเมื่อพบว่ามีรถสวนมาข้างหน้าในยามค่ำคืน โดยเฉพาะถนน 2 เลนสวนกัน ควรจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และจำไว้ว่าไฟตัดหมอกรถยนต์ไม่ใช่แฟชั่น ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อนะคะเพื่อความปลอดภัย

 

ไฟตัดหมอกรถยนต์ อยู่ตรงไหน

 

เปิดไฟตัดหมอกรถยนต์พร่ำเพรื่อ สร้างอันตรายต่อผู้ร่วมทางจริงหรือไม่ ?

หลายคนผู้ใช้รถบนท้องถนนยังเข้าใจผิดว่า สามารถเปิดไฟตัดหมอกรถยนต์แทนไฟหน้ารถได้ในเวลาขับบนท้องถนน แต่ความเป็นจริงนั้นการเปิดไฟที่มีความสว่างสูงบนท้องถนน สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ร่วมทางบนท้องถนนได้ เพราะไฟตัดหมอกนั้นส่วนใหญ่หลอดจะเป็นสปอตไลท์ ซึ่งถ้าเปิดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมแสงสว่างที่เกินความจำเป็น จะส่องไปแยงรบกวนสายตาผู้ที่ขับขี่รถบนท้องถนน ทำให้ตาพร่ามัว ทำให้มีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้ง่ายนั่นเอง

ในเรื่องนี้การใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2536 ได้มีการระบุการใช้ไฟตัดหมอก สามารถใช้ได้ต่อเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่มีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรค อันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถและต้องไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือ สวนมาในระยะของแสงไฟ หรือในระยะ 150 เมตร โดยสามารถใช้หลอดไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง ที่มีกำลังไฟไม่เกินดวงละ 55 วัตต์ เท่านั้น และต้องสูงจากพื้นทางราบไม่เกินกว่าระดับโคมไฟแสงพุ่งไกล (ไฟสูง) และโคมไฟแสงพุ่งต่ำ (ไฟต่ำ) ศูนย์รวมแสงต้องอยู่ต่ำกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบไม่น้อยกว่า 2 องศา หรือ 0.20 เมตรในระยะ 7.50 เมตร และไม่เฉไปทางขวา หากมีการใช้ไฟตัดหมอกไม่เป็นไปตามประเภท ลักษณะและเงื่อนไขที่กำหนด จะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท นั่นเองค่ะ

การใช้ไฟตัดหมอกให้ถูกวิธี จึงมีการรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องจากทั้งทางภาครัฐ และเอกชน

โดยกรณีที่จำเป็นต้องเปิดไฟตัดหมอก ประกอบด้วย

  1. ฝนตกปรอยๆ หรือตกหนัก ไฟตัดหมอกจะมีประโยชน์มาก แม้จะเป็นช่วงกลางวันก็ตามเพราะมันสามารถช่วยให้รถที่สวนมามองเห็นไฟตัดหมอกอย่างชัดเจน
  2. เมื่อขึ้นภูเขาสูงหรือยอดเขา โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืนเพราะที่สูงๆ นั้น หมอกจะมีมากกว่าปกติ
  3. ในช่วงกลางคืนหลังฝนหยุดตกหรือถนนยังเปียกอยู่ ซึ่งไฟตัดหมอกจะช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น เพราะไฟหน้าปกติถูกน้ำสะท้อนไปเกือบหมดแล้ว
  4. ทุกกรณีที่มีหมอกหรือควันเกิดขึ้นบนท้องถนนที่บดบังทัศนวิสัยให้มองเห็นได้น้อยกว่า 50 เมตร

ดังนั้นการใช้ไฟตัดหมอก ควรปิดไฟตัดหมอกทันทีที่มีรถสวนมาในระยะที่มองเห็นไฟหน้าของรถที่สวนมาได้อย่างชัดเจน การใช้ไฟตัดหมอกอย่างถูกวิธีจะก่อให้เกิดประโยชน์และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และเสริมทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ให้ดีขึ้น

การเปลี่ยนไฟตัดหมอกรถยนต์

  1. ต้องแน่ใจว่ารถของคุณจอดสนิทและดับเครื่องอยู่พยายามจอดรถให้อยู่ในแนวระนาบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และดึงเบรกมือ
  2. เปิดฝากระโปรงรถไฟตัดหมอกที่กันชนนั้นโดยมากจะอยู่ใต้ไฟหน้ารถ ถ้าไฟตัดหมอกของรถคุณไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้ ตรวจสอบตำแหน่งที่ถูกต้องได้ในคู่มือรถ
  3. ถอดสวิตช์ไฟตัดหมอกออกจากฐานยึดไฟตัดหมอกสามารถถอดสวิตช์ได้โดยการปลดคลิปซึ่งจะเป็นการตัดวงจรเชื่อมต่อกับระบบไฟของรถ
  4. ถอดวงแหวน สลักเกลียว และน็อตออกเพื่อที่คุณจะสามารถนำฐานยึดไฟตัดหมอกออกมาได้ เก็บชิ้นส่วนทุกชิ้นไว้ให้ครบจนกว่าจะติดตั้งเรียบร้อยสมบูรณ์
  5. นำฐานยึดไฟตัดหมอกออกมาระวังอย่าให้โดนกันชน ถ้าคุณติดตั้งไฟตัดหมอกที่กระจังหน้าหรือหลังคารถ ก็ต้องยกฐานยึดให้พ้นจากรถของคุณ ระวังอย่าให้ครูดโดนเพดานหรือตัวรถ
  6. ติดไฟตัดหมอกใหม่เข้าไปฐานยึดไฟตัดหมอกควรจะอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับอันเดิม ถ้าไม่พอดี คุณก็อาจจะซื้อไฟหน้ารถมาผิดแบบต้องแน่ใจว่าวางให้รูสลักเกลียวใหม่ตรงกับรูสลักเกลียวเดิม ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องเจาะรูใหม่
  7. ใส่สลักเกลียวใส่วงแหวนและน็อตยึดเข้ากับสลักเกลียว ไขให้แน่นด้วยประแจ แต่อย่าไขแน่นจนเกินไปเพราะคุณอาจทำให้ฐานยึดไฟตัดหมอกหรือรถเสียหายได้ ฐานยึดไฟตัดหมอกควรจะแน่นพอดีและไม่ขยับเขยื้อน
  8. ใส่สวิตช์กลับเข้าไป. ใส่สวิตช์ไฟตัดหมอกกลับเข้าไปอีกครั้งโดยใช้คลิปยึด ซึ่งไฟตัดหมอกชุดใหม่นี้ก็จะได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์
  9. สตาร์ทเครื่อง. ทดสอบการใช้งานไฟตัดหมอกใหม่ ดูให้แน่ใจว่ามุมของแสงไฟนั้นพอดีต่อการมองเห็นและไม่แยงตาผู้ขับรถคันอื่น

บทส่งท้าย ไฟตัดหมอกรถยนต์

ชุดไฟตัดหมอก คือ ไฟสปอร์ตไลท์ย่อส่วน มีลักษณะดวงไฟไม่ใหญ่มาก มีขนาด 55 วัตต์ เเต่มีเเสงค่อนข้างสว่าง เเละกระจายเเสงได้ดีมาก เหมาะกับการเปิดในช่วงเวลาที่ฝนตก มีหมอกหนา เวลากลางคืน หรือขณะที่ขับผ่านบริเวณที่มีควันไฟไหม้หนา ๆ เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เเละให้ผู้ร่วมทางมองเห็นรถยนต์ของคุณได้ดีมากขึ้น เพื่อลดอุบัติเหตุ เเต่อีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ เราควรใช้ให้เหมาะกับช่วงเวลา เเละสถานการณ์ เพราะถ้าเราเปิดใช้มันพร่ำเพรื่อเกินไปอาจจะไปสร้างอันตรายให้เเก่ผู้ร่วมทางกับเราก็ได้

ชมรถมือสองสวยๆ คัดเกรด A++ คลิ๊กที่รูปเลย..

รถกระบะมือสอง สภาพนางฟ้า

รถเก๋งมือสอง คัดเกรด A++

รถ SUV มือสองเกรด A++

รถตู้มือสองคัดสวยเกรดนางฟ้า

ค้นหารถมือสอง คัดสวยๆ เกรด A++

ลองพิมพ์ คำค้นหา เช่น   วีออส | ซีวิค | วีโก้   เป็นต้น 

รถมือสองคัดสวย ๆ เกรดA++

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอคอนเทนต์และโฆษณาที่ท่านอาจสนใจเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์ของเราต่อไปโดยไม่ได้ปรับ การตั้งค่าคุกกี้ ใดๆ เราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้ เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้จะถูกใช้เพื่อติดตามข้อมูลทางสถิติและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ (เช่น หน้าเว็บที่เข้าชม ลิงก์ที่คลิก ระยะเวลาที่เข้าชมแต่ละหน้า) Phetyont จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์และและส่งมอบเนื้อหาที่มีความเหมาะสมแก่ท่าน คุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งข้อมูลที่อาจระบุตัวตนได้แก่บุคคลภายนอกเว้นแต่กรณีมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยแก่ผู้ให้บริการภายนอกที่ได้รับอนุญาตจาก Phetyont ให้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลแทน Phetyont ทั้งนี้ ผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ของตนเองได้
    Cookies Details

บันทึก