ใช้รถยนต์ทุกวันแต่ไม่เคยได้ดูแลรักษารถยนต์ก็มักจะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ตามหลักแล้วคนที่มีรถยนต์ควรจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรถยนต์ เป็นอย่างมากรวมไปถึงควรตรวจสอบช่วงล่างรถยนต์บ้างซึ่งการผิดปกติที่มาจากช่วงล่างมีหลากหลายลักษณะ วันนี้เรามีวิธีการตรวจเช็คอาการผิดปกติของ ช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง มาฝากกันนะคะ
ตรวจเช็คอาการผิดปกติของ ช่วงล่างรถยนต์ ก่อนที่จะสายเกินแก้
- ได้ยินเสียงกึกๆ จากใต้ท้องด้านหน้าของรถยนต์เนื่องจากเลี้ยวรถหรือขับรถตกหลุมนั่นเอง อาจเป็นไปได้ว่าลูกหมากคันซัก-คันส่ง หรือลูกหมากปลายแร็ค หรือที่เรียกว่าไม้ตีกลองอาจจะหลวม อีกจุดหนึ่งที่เป็นไปได้นั่นก็คือ เพลาขับ หากยางหุ้มเพลาขาดเป็นเวลานานๆ แล้วมีเสียงดังกุกๆ กักๆ ได้เหมือนกัน
- ได้ยินเสียงกุกกัก ใต้ท้องรถยนต์เมื่อเวลาผ่านทางหรือถนนที่ขรุขระ หรืออาจจะเป็นเนินเล็กๆ ก็ตามแต่ ถ้าได้ยินเสียงเกิดขึ้นเมื่อไร ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นเสียงที่เกิดจากความผิดปกติของบูชปีกนก
- ขณะที่คุณเบรก จะได้ยินเสียงดังเอี๊ยดๆ จี๊ดๆ เหมือนเหล็กเสียดสีกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเสียงเตือนความผิดปกติของผ้าเบรกว่ามีระดับต่ำมากแล้ว ดังนั้นก็ควรที่จะต้องเปลี่ยนป้าเบรกนั่นเอง
- แต่ถ้าได้ยินเสียงดังครืดๆ อาจจะเป็นไปได้ว่าผ้าเบรกและจานเบรกสกปรก ซึ่งก็เกิดจากฝุ่นที่มาจากผ้าเบรกนั่นเอง แต่ถ้าหลังหลังจากที่ลุยน้ำมา ก็ไม่ต้องกังวล เพราะผ้าเบรกเปียกน้ำ แต่ถ้าขับไปสักพักเสียงก็จะหายไปเอง
- มีเสียงดังเวลาเลี้ยวสุด ส่วนใหญ่แล้วจะพบในรถกระบะ ถ้าเกิดได้ยินเสียงตอนเลี้ยวสุด ก็ควรจะเปลี่ยนตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าทนฟังเสียงเหล็กเสียดสีกันจนทำให้เกิดความรำคาญ
ซึ่งเสียงเหล่านี้นี่เองเป็นตัวการบอกว่า ช่วงล่างรถยนต์ ของคุณเริ่มมีอาการผิดปกติแล้ว อย่างไรก็ตามควรนำรถยนต์เข้าไปตรวจเช็คตามศูนย์บริการรถยนต์ที่ใกล้บ้านคุณดีกว่าทนฟังเสียงไปเรื่อยๆแถมไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อช่วงล่างรถยนต์ของคุณมากแค่ไหน ถ้ารู้อย่างนี้แล้วควรรีบไปแก้ก่อนจะสายเกินแก้
ช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
ประสิทธิภาพในการขับขี่ของรถยนต์แต่ละคันนั้นไม่เหมือนกัน ด้วยหน้าที่ของแต่ละส่วนที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวรถยนต์ มาพร้อมหน้าที่การทำงานที่ต่างกัน โดยผู้ที่รักในการขับรถก็อาจจะมีการแต่งส่วนต่างๆเพิ่มเข้าไปเพื่อให้รถเกิดประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น อีกยังเป็นการเพิ่มความสบายและตอบโจทย์ความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงช่วงล่างรถยนต์ เป็นส่วนที่มีความสำคัญ โดยช่วงล่างรถยนต์คืออะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
พูดให้เข้าใจง่ายๆ สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้ว่า ช่วงล่างของรถ คือส่วนไหน ช่วงล่างรถยนต์ ก็คือ ส่วนประกอบของรถด้านล่างทั้งหมด โดยไม่นับรวมส่วนตัวถังของรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์ และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ขับขี่มีประสิทธิภาพอีกด้วยย
หน้าที่สำคัญของช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
- รองรับน้ำหนักของตัวรถยนต์ ส่วนล่างของรถยนต์มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักของตัวรถ เป็นส่วนที่จะสัมผัสกับพื้นถนน ซึ่งรวมไปถึงล้อรถ ทำให้เกิดความสมดุลต่างๆ ในการขับเคลื่อน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถไปยังจุดหมายได้
- รองรับและป้องกัน แรงสั่นสะเทือนช่วงล่างจะคอยแบกรับน้ำหนักของตัวรถแล้ว ก็ยังช่วยรับแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือน เวลาที่รถตกหลุม หรือขับบนพื้นสภาพผิวถนนที่ขรุขระ และด้วยคุณสมบัตินี้จึงทำให้ห้องโดยสารได้รับแรงกระแทกจากพื้นหลุมน้อยลง
- รักษาสมดุลของพื้นผิวถนนและตัวรถ ทำหน้าที่รักษาความสมดุลความสูงของตัวรถต่อพื้นผิวถนน เมื่อเวลาที่รถขับเคลื่อนในสภาพถนนที่ขรุขระเป็นหลุม ระบบช่วงล่างจะสามารถปรับระดับของล้อที่สัมผัสกับพื้นผิวถนน ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนกับตัวพื้นรถด้านล่าง
- ทำหน้าที่เป็นตัวชะลอหรือหยุดรถ
ระบบช่วงล่างจะมีส่วนของเบรกมือและเบรกเท้า เป็นส่วนสำคัญของการควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยนต์ จึงทำให้เบรคหรือชะลอรถได้ดีขึ้น
ส่วนประกอบสำคัญของช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง?
เมื่อทำความเข้าใจแล้วว่า ช่วงล่างมีหน้าที่ในการทำงานอย่างไร ทีนี้ก็มาดูกันว่าส่วนประกอบมีอะไรบ้าง เพื่อจะได้ดูแลรักษาได้อย่างครบถ้วน และใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
- ลูกหมาก
ลูกหมากถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของช่วงล่างรถยนต์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่คอยทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลต่อระบบบังคับเลี้ยวของรถยนต์ โดยมีลูกหมากที่นิยมใช้ทั้งหมด 5 ประเภทดังนี้
- ลูกหมากคันชัก
เป็นลูกหมากที่ยึดติดกับดุมล้อในส่วนของระบบบังคับเลี้ยว มีหน้าที่ในการปรับสมดุลของทิศทางล้อเมื่อเข้าโค้ง - ลูกหมากแร็คช์
เป็นลูกหมากที่ช่วยถ่ายทอดแรงจากการหมุนเลี้ยว มาเป็นการเคลื่อนที่ในแนวตรง - ลูกหมากปีกนกบนและลูกหมากปีกนกล่าง
มีความสำคัญในการทำให้ล้อเคลื่อนที่ไปตามทิศทาง ได้อย่าง อิสระ ทั้งพื้นผิวปกติหรือทางต่างระดับ - ลูกหมากกันโคลง
เป็นลูกหมากที่ทำหน้าที่ช่วยรับแรงกระแทกเพื่อให้เกิดความนุ่มนวลของตัวรถ - ลูกหมากคันส่งกลาง
เป็นลูกหมากที่มีหน้าที่ถ่ายทอดแรงจากการเลี้ยวมาเป็นแนวตรง เช่นเดียวกับ ลูกหมากแร็คช์
- โช้คอัพ
อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการควบคุมการยุบและยืดตัวของสปริงและแหนบ ช่วยรองรับแรงกระแทก พร้อมลดการสะเทือนของรถ ซึ่งถ้าขาดส่วนนี้ไป ก็จะทำให้การทรงตัวรถนั้นยากขึ้น เมื่อขับขี่บนถนนที่มีความขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ - ชุดคันส่ง
เป็นชุดอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถยนต์ ทำให้รถมีความเสถียรในการขับเคลื่อน เกิดการควบคุมได้ง่ายหากรถเสียหลัก และยังช่วยเพิ่มสมรรถนะที่มีประสิทธิภาพให้กับยางรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการลดแรงสะเทือนได้เป็นอย่างดีด้วย - เหล็กกันโคลง
เหล็กกันโคลงมีหน้าที่ในการลดการสั่นสะเทือนและการรักษาสมดุลที่ดีขึ้นของรถขณะเบรกอย่างกะทันหันหรือการเลี้ยวโค้งอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้รถยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี - สปริง
ทำหน้าที่ในการซับแรงกระแทกจากถนนที่เข้าสู่โครงสร้างรถ ซึ่งการกระเด้งของสปริงนั้นก็จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของตัวรถ โดยสปริงจะเด้งมากน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักของตัวรถด้วย ในปัจจุบันก็จะมีการใช้สปริงสำหรับระบบช่วงล่างของรถยนต์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 แบบก็คือ
รถมือสองคัดสวย ๆ เกรดA++
- คอยล์สปริง มีลักษณะคล้ายกับที่พบเห็นกันได้บ่อยตามอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเช่นสปริงในด้ามปากกา โดยสปริงชนิดนี้ก็จะถูกติดตั้งเอาไว้กับโช้คอัพเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของล้อ
- แหนบสปริง สปริงชนิดนี้มักจะใช้ในรถกระบะ ซึ่งก็ไม่ได้มีลักษณะม้วนแบบสปริงอย่างที่เราคุ้นเคยกัน แต่จะเป็นการออกแบบแผ่นเหล็กที่ความยืดหยุ่นต่างกันแล้วนำมามัดรวมกันจนกลายเป็นสปริงที่สามารถควบคุมแรงกระแทกได้นั่นเอง
- ทอร์ชั่นบาร์ สปริงชนิดนี้ก็จะเป็นการใช้ชิ้นส่วนที่สามารถหมุนได้เชื่อมต่อในระบบช่วงล่าง ซึ่งก็จะให้ผลแบบเดียวกับ Coil Spring แต่จะมีข้อดีก็คือสปริงชนิดนี้สามารถปรับความแข็งได้ตามความต้องการ แต่ปัจจุบันก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมใช้กันเท่าไหร่เพราะว่ามีระบบสปริงที่ดีและราคาถูกกว่ามาทดแทน
- ถุงลม ทำหน้าที่ควบคุมการซับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นได้คล้ายกับการทำงานของสปริง ซึ่งการทำงานของถุงลมก็คือจะอาศัยแรงดันอากาศเข้ามาควบคุมการซับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น ข้อดีก็คือสามารถตอบสนองได้ดีกว่าเนื่องจากสามารถปรับได้หลายรูปแบบตามต้องการ แต่ข้อเสียก็คือมีราคาแพงมากนั่นเอง ดังนั้นจึงมักจะพบอยู่ในกลุ่มของรถหรูราคาแพงเป็นส่วนใหญ่
รูปแบบของระบบช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
สำหรับรูปแบบของระบบช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง จำแนกอย่างง่ายก็จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ก็คือแบบตายตัว แบบอิสระ และแบบกึ่งอิสระ
- ช่วงล่างแบบตายตัว (Dependent Suspension)
เป็นระบบช่วงล่างเก่าแก่ดั้งเดิม ระบบช่วงล่างแบบนี้อาศัยน้ำหนักจากชุดช่วงล่างเองในการทำให้ล้อเกาะถนนอยู่ตลอดเวลา โดยมากแล้วจะออกแบบมาให้ตอบสนองกับระบบเพลาแข็ง (axle) โดยมีชิ้นส่วนที่ยึดติดกับชุดเพลาแล้วเกาะติดกับตัวถังรถ เพื่อซับแรงกระแทกหรือกระทำที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อดีก็คือไม่ต้องมีการตั้งค่าและบำรุงรักษาอะไรมาก ปัจจุบันก็มักพบเห็นในกลุ่มของรถกระบะที่สามารถรับน้ำหนักได้ดีและไม่ต้องดูแลรักษามากนั่นเอง - ช่วงล่างแบบอิสระ (Independent Suspension)
เป็นระบบช่วงล่างที่ปัจจุบันนิยมใช้กันในรถยนต์มากที่สุด เนื่องจากมีความสามารถในการตอบสนองการขับขี่ดี และมอบความนุ่มนวลในการขับขี่ได้มากกว่า ข้อดีของช่วงล่างแบบนี้ก็คือสามารถทำให้การทำงานของล้อทั้ง 4 เป็นอิสระออกจากกัน ดังนั้นถ้าหากว่าล้อใดล้อหนึ่งมีการซับแรงกระแทกจากถนน ก็จะไม่ส่งผลกับอีก 3 ล้อที่เหลือ จึงทำให้รถสามารถเกาะถนนไปได้ ช่วยให้มีความมั่นใจในการขับขี่และมีความนุ่มนวลมากกว่านั้นเอง แต่ข้อเสียของช่วงล่างแบบนี้ก็คือมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระยะยาวค่อนข้างแพงพอสมควรเลยทีเดียว - ช่วงล่างแบบกึ่งอิสระ(Semi Dependent Suspension)
เป็นระบบช่วงล่างแนวคิดใหม่ที่มีการใช้คานแข็งด้านล่างคล้ายกับในช่วงล่างแบบตายตัว แต่จะแทนที่ด้วยตัวซับเฟรมที่ออกแบบให้ล้ออยู่อิสระทางด้านปลาย แล้วติดตั้งโช้คอัพไว้ควบคุมล้อตรงบริเวณส่วนปลายแขนของซับเฟรม หรือที่เรียกว่า Trailing Arm โดยสิ่งที่เหมือนกับช่วงล่างตายตัวก็คือ ค่ามุมต่าง ๆ จะถูกเซ็ตไว้ให้คงที่ในการใช้งาน โดยจะมีเพียงช่วงอาร์มเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนที่ในแนวตั้งได้ ซึ่งข้อดีของช่วงล่างแบบนี้ก็คือมีต้นทุนที่ไม่แพงและติดตั้งง่าย จึงทำให้นิยมนำมาติดตั้งกันในกลุ่มของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือพวกอีโคคาร์ แต่ช่วงล่างแบบนี้อาจจะยังตอบสนองการขับขี่ได้ไม่ดีเท่ากับช่วงล่างแบบอิสระ - อายุการใช้งานของช่วงล่างรถยนต์อายุการใช้งานของช่วงล่างนั้นขึ้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของรถยนต์แต่ละคัน ถ้าหากรถยนต์คันไหนมีการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ช่วงล่างก็จะไปไวกว่ารถยนต์ที่มีการใช้งานตามธรรมดาและได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ดังนั้นอาการที่บ่งบอกว่าช่วงล่างของรถยนต์กำลังจะเสื่อมสภาพก็ให้ลองสังเกตดูว่าเวลาขับรถแล้วรู้สึกว่าอาการในขณะที่เข้าโค้ง มีความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติหรือไม่ การซับแรงกระแทกรถมีอะไรที่ดูผิดแผกไปจากเดิมบ้างหรือเปล่า ถ้าหากพบว่าไม่เหมือนเดิม ก็เดาได้เลยว่าช่วงล่างของรถยนต์คุณน่าจะเริ่มเกิดการเสื่อมสภาพลงแล้ว ซึ่งถ้าหากพบอาการผิดปกติแต่ยังไม่มากก็แนะนำให้ลองตรวจสอบสภาพช่วงล่างของรถยนต์ด้วยตนเองเสียก่อน โดยเจ้าของรถสามารถตรวจสอบสภาพช่วงล่างเบื้องต้นได้ในส่วนของการตรวจลูกยาง เช็คร่องรอยการซึมของโช้ค เหล่านี้เป็นต้น แต่เพื่อความชัวร์ก็แนะนำให้นำรถเข้าไปตรวจสอบสภาพจะดีกว่า
- พูดให้เข้าใจง่ายๆ สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้ว่า ช่วงล่างของรถ คือส่วนไหน ช่วงล่างรถยนต์ ก็คือ ส่วนประกอบของรถด้านล่างทั้งหมด โดยไม่นับรวมส่วนตัวถังของรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์ แส่วนสำคัญที่ทำให้ขับขี่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
ประสิทธิภาพในการขับขี่ข ประสิทธิภาพในการขับขี่ของรถยนต์แต่ละคันนั้นไม่เหมือนกัน ด้วยหน้าที่ของแต่ละส่วนที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวรถยนต์ มาพร้อมหน้าที่การทำงานที่ต่างกัน ของรถคืออะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยองรถยนต์แต่ละคันนั้นไม่เหมือนกัน ด้วยหน้าที่ของแต่ละส่วนที่ประหน้าที่สำคัญของช่วงล่างรถยนต์
- รองรับน้ำหนักของตัวรถยนต์
กอบขึ้นมาเป็นตัวรถยนต์ มาพร้อมหน้าที่การทำงานที่ต่างกัน โดยผู้ที่รักในการขับรถก็อาจจะมีการแต่งส่วนต่างๆเพิ่มเข้าไปเพื่อให้รถเกิดประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น อีกยังเป็นการเพิ่มความสบายและตอบโจทย์ความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงช่วงล่างรถยนต์ซึ่งเป็นส่วนที่มีความสำคัญ โดยช่วงล่างของรถคืออะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
บทสรุปส่งท้าย ช่วงล่างรถยนต์ มีอะไรบ้าง
โดยผู้ที่รักในการขับรถก็อาจจะมีการแต่งส่วนต่างๆเพิ่มเข้าไปเพื่อให้รถเกิดประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น อีกยังเป็นการเพิ่มความสบายและตอบโจทย์ความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงช่วงล่างรถยนต์ซึ่งเป็นส่วนที่มีความสำคัญ